เมื่อมุสลิมะฮฺทำงานนอกบ้าน
สิ่งที่กล่าวต่อไปนี้ เน้นหนักสำหรับสตรีที่แต่งงานแล้ว อาจจะมีข้อผ่อนปรนได้บ้างสำหรับสตรีที่มีเหตุจำเป็น เพราะนั่นคือความเมตตาจากอัลลอฮฺตะอาลา
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เมื่ออิสลามได้มอบเกียรติให้แก่บรรดาสตรี โดยนางทั้งหลายได้ถูกเลือกให้เป็นศรีภรรยาและแม่เรือน ซึ่งทั้งหมดนี้คือตำแหน่งที่มีบทบาทอันยิ่งใหญ่ และเป็นหน้าที่ที่มีเกียรติ เป็นภาระกิจที่น่ายกย่อง
นางทั้งหลายคือ ผู้คอยทำหน้าที่อย่างแข็งขันเคียงบ่าเคียงไหล่ผู้เป็นสามี เพื่อนำความผาสุกและความหรรษามาสู่ครอบครัว
นางทั้งหลายคือผู้คอยปลอบโยนในยามทุกข์ยาก
นางทั้งหลายคือผู้ให้ความอบอุ่นทั้งแก่สามีและลูกๆ
นางทั้งหลายคือผู้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวในการเผชิญกับมรสุมบททดสอบต่างๆ ในชีวิต
อิสลามมองว่าบุรุษเพศมีคุณสมบัติพิเศษทางกายภาคที่แข็งแรงบึกบึน มีจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อเขาทั้งหลายสามารถแบกภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการดูแลครอบครัวของเขาเหล่านั้น นี่คือ สาระสำคัญจากอัลลอฮฺตะอาลา ขณะที่พระองค์ทรงตรัสเล่าเรื่องเกี่ยวกับนบีอาดัม และ ฮาวาที่ว่า ให้เขาทั้งสองต่างคอยตักเตือนซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้ถูกมารร้ายหลอกลวง ซึ่งผลของการถูกหลอกลวงนั้นทำให้เขาทั้งสองต้องถูกขับออกจากความผาสุกต่างๆในสวนสวรรค์
“แล้วเราได้รับสั่งว่า โอ้อาดัม แท้จริงอิบลีสผู้นี้เป็นศัตรูของเจ้าและคู่ครองของเจ้า ดังนั้นเจ้าอย่าปล่อยให้มันเป็นสาเหตุนำเจ้าทั้งสองออกจากสวรรค์ แล้วเจ้า (โอ้อาดัม) จะประสบความลำเค็ญ” (ตอฮา : 117)
ข่าวความพิบัตินั้นได้ถูกแจ้งแก่ นบีอาดัมเท่านั้นไม่ใช่ฮาวา ทั้งๆที่นางก็อยู่เคียงข้างสามีนางนอกสวรรค์ด้วย นี่สามารถเป็นที่เข้าใจได้ว่าผู้ชายนั้นถูกแบกให้รับหน้าที่ทำงานหาเครื่องยังชีพภายนอกบ้านเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนผู้หญิงนั้นหน้าที่ของนาง คือดูแลบ้าน คอยปรนนิบัติสามีและดูแลลูกๆๆ หากบรรดาสตรีมีความจำเป็นต้องทำงานนอกบ้านแล้วฝากลูกๆของนางให้กับสถานรับเลี้ยงเด็กเป็นผู้ดูแล นี่คือความขาดทุนที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ผู้เป็นภรรยาแน่ใจหรือว่าลูกๆของนางที่ถูกมอบให้แก่สถานรับเลี้ยงเด็กจะได้รับการอบรมที่ดี และผู้เป็นสามีจะรู้สึกสบายใจกระนั้นหรือหากภรรยาของเขาทำงานนอกบ้าน เขาจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไรหากภรรยามักกลับมาด้วยความเหนื่อยล้า? สำหรับสตรีที่ทำงานนอกบ้าน นางจะรู้สึกว่ามีสิทธิเท่าเทียมกับสามีภายในบ้าน เพราะต่างฝ่ายต่างก็ทำงานหาเครื่องยังชีพ
ปัจจุบันผู้เป็นภรรยาไม่รู้สึกถึงความเป็นผู้นำภายในบ้านของสามี และผู้เป็นสามีก็ไม่ได้รับความสุขจากความอ่อนโยนของผู้เป็นภรรยา อีกทั้งสามีไม่มีอำนาจปกครองใดๆ เหนือภรรยา และเขาไม่รู้สึกว่าตนเองคือผู้สร้างครอบครัวอีกแล้ว ผลจากสภาพเช่นนี้ ทำให้กิจกรรมต่างๆภายในครอบครัวกลายเป็นการแข่งขันระหว่างทั้งสองฝ่าย พร้อมกันนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาต้องแตกร้าว นี่คือผลส่วนหนึ่งจากการที่บรรดาภรรยาต้องทำงานนอกบ้าน นี่ยังไม่รวมถึงผลทางด้านการผลิต แท้จริงบรรดาสตรีไม่ได้มีความสามารถเท่าเทียมกับบรรดาบุรุษหากต้องทำหน้าที่ทีที่หนักๆ
หากมองในอีกมุมๆหนึ่ง การแต่งตัว การสวมเสื้อผ้าของนางยังเป็นตัวสร้างความรบกวนต่อหน้าที่การงานของนางอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการออกนอกบ้านของบรรดาสตรี หาได้นำประโยชน์อะไรมากมายต่อสังคม ไม่เหมือนบุรุษ นางทั้งหลายมักตกเป็นเป้าสายตาและพฤติกรรมหยาบคายของคนบางคนที่ไม่มีจริยธรรม ได้มีการกล่าวว่า “สังคมที่ดีนั้นไม่ใช่สังคมที่บีบบังคับให้สตรีต้องทำงานหนัก”
ระบบสังคมที่สร้างครอบครัวอันปราศจากลมหายใจของความเป็นแม่ ความเป็นพ่อหรือความเป็นครอบครัว ไม่ต่างอะไรกับทุ่งหญ้าที่ครอบครองโดยเจ้าเมืองๆหนึ่งหรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากเราต้องการผลิตสตรีที่มีคุณภาพ เราควรให้นางทั้งหลายรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความเป็นแม่ และเมื่อใดนางมีจิตวิญญาณของความเป็นแม่อย่างแท้จริง นางย่อมสามารถสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ที่ดีในอนาคตได้ และนี่คือสิ่งที่สอดคล้องกับสภาพร่างกาย จิตใจของนาง
เมื่อมุสลิมะฮฺทำงานนอกบ้าน//^^ By: al-firdaus~*